06 มิถุนายน 2553

5.การศึกษาไทย...การแข่งขันที่ไม่มีทางชนะ

5. การศึกษาไทย..การแข่งขันที่ไม่มีทางชนะ
อ่านข่าวเด็กนักเรียน จ.เชียงราย เรียนดี แต่สอบไม่ติดมหาวิทยาลัยที่ตนเองตั้งใจ จึงตัดสินใจผูกคอตาย ครับ..อ่านแล้ว เศร้าใจจริงๆ และขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของน้องด้วยครับ..
ครับ..นี่คือผลสืบเนื่องมาจากระบบการศึกษาของไทยเรา ที่หลายสิบปีหลังมานี้ไม่เคยที่จะปลูกฝังธรรมะ และความพอเพียงให้แก่เด็กของเราเลย ทั้งยังไม่เคยให้เด็กของเราได้เรียน รู้ทุกข์ รู้สุข รู้สมาธิ มีแต่เร่งให้เรียนๆ เพื่อการสอบแข่งขันเท่านั้น.
การเรียนรู้ของเด็กนักเรียนในปัจจุบัน ทุกโรงเรียนมักจะกวดขันแต่วิชาการ ให้มีการแข่งขันด้านวิชาการเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้านจริยธรรม ศีลธรรมมักจะมองข้าม ไม่ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ ไม่เคยปลูกฝังให้เด็ก รู้จักสุข รู้จักทุกข์ รู้จักความผิดหวัง และรู้จักเพียงพอ ในสิ่งที่ตนพึงมี พึงได้
ที่สำคัญ.. สังคมไทยของเราปัจจุบันนี้ มักจะนับถือ บูชาแต่ผู้มีเงิน ใครมีอาชีพที่ดีกว่าย่อมได้เปรียบคนอื่นในสังคม เมื่อมีอาชีพที่ดีกว่าแล้ว ย่อมสามารถหาเงินได้ง่าย และมากกว่า อาชีพหมอ วิศวกร เป็นอาชีพที่สามารถหาเงินได้ง่ายกว่าอาชีพอื่นๆ และถ้ายิ่งจบจากสถาบันดังๆแล้ว ก็เป็นที่ต้องการของสังคม มีการว่าจ้างด้วยเงินเดือนสูงๆ เป็นสิ่งล่อใจ ทำให้เกิดการแข่งขัน ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นไปอีก สังเกตจากผู้ที่จบแพทย์มาใหม่ๆ ธนาคารจะให้เงินกู้เพื่อเปิดคลินิก หรือสถานพยาบาลโดยแทบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเลย สำหรับผู้ที่จบด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยดังๆ ก็จะมีบริษัทใหญ่ๆมาคอยรอรับเข้าทำงานเลย
นี่คงเป็นเหตุให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองเด็ก ตั้งหน้าตั้งตา จัดการให้ลูกของตนเข้าเรียนโรงเรียนดีๆ แย่งชิงกันตั้งแต่อนุบาล ประถม และมัธยม ปลูกฝังให้เด็กรู้จักแต่การแย่งชิง แข่งขันกันตั้งแต่เล็ก จนเกิดเป็นนิสัย หาหนทางเพียงเพื่อให้ได้ชนะเท่านั้น แต่จะด้วยวิธีใดก็ตาม ขอให้ชนะ จนเด็กในยุคนี้ไม่รู้จักแบ่งปัน เสียสละ ไม่รู้จักการให้ และความเอื้ออาทรซึ่งเป็นวัฒนธรรมเดิมๆของไทยเรา.
ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่รู้กี่ยุค กี่สมัย ก็ทำได้แค่นี้ ไม่เคยมีความคิดที่จะพัฒนาการศึกษาของเราให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของไทยเรา ลอกเอาของฝรั่งมาทั้งหมด โดยไม่มองว่านิสัย และความเป็นอยู่ของคนไทยนั้นเข้ากันได้กับหลักสูตรของฝรั่งต่างประเทศหรือเปล่า ทั้งโอเน็ต เอเน็ตก็มั่ว จนกระทั่งโดนเด็กฟ้องร้องเอา ..เวรกรรมจริงๆ
วกมาเรื่องดวงบ้าง คนที่เรียนดี สามารถดูได้จากดวงหรือไม่ ? ได้ครับ จากที่สังเกตมาไม่น้อย ดวงใด ถ้ามีดาวพฤหัส(๕)เด่น เช่น เป็นอุจจ์ เกษตร ราชาโชค มักจะมีปัญญาดี สามารถเรียนได้สูงๆ และถ้าสถิตในเรือนศุภะแล้วละก็ มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ ระดับด็อกเตอร์ เลยเชียว
แต่ก็น่าแปลกใจ ไม่ทราบว่าดวงผิด หรือคนผิด บรรดาด็อกเตอร์ทั้งหลายในคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา กลับไม่ได้สร้างผลงานเป็นที่ประทับใจ สมกับจบจากด็อกเตอร์เลย พับผ่า..!!

ปาฏิหาริย์
Rahoo89@gmail.com
พค.2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น