หนึ่งมิตรชิดใกล้ : อัสนี วสันต์

เพลงหนึ่งมิตรชิดใกล้ ให้ความรู้สึกดีๆในวันเก่าๆ สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น
ถ้าสังเกตุดีๆ วัยรุ่นสมัยก่อนจะฟังเพลงที่เรียบง่าย มีความหมายร่วมสมัย
ลองฟังนะ....

the cat 999

วันหนึ่งตอนบ่ายแก่ๆ เห็นเจ้า"แก่น" นอนอยู่บนโต๊ะทำงาน ก็เลยเอาเวปแคมส่อง
พอ เจ้าแก่นเห็นเราเอากล้องส่อง ก็เลยเขิน..แล้วก็ แสดงอย่างที่เห็นนี่ไงล่ะ..555
ดูคลิปนี้ เปิดลำโพลด้วยนะ จะได้อรรถสรในการดูอีกแบบนึง..ลองสิ..

月亮代表我的心

เพลงจีนเพลงนี้ให้ความหมายที่ดีมากๆ
"เย่เลี่ยงไต้เปี่ยวหวอตีซิน"
"ดวงจันทร์เปรียบเหมือนดวงใจของฉัน"
แปลแบบมั่วๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ
เพลงนี้ขับร้องได้ทั้ง ชาย-หญิง
จังหวะนุ่มนวล ให้ความรู้สึกซึ้งๆ แบบเก่าๆ
อืม.ม.. ชอบนะ..

15.ภพในโหราศาสตร์ไทย(4)

      15.ภพมรณะ(ต่อ)

ภพที่ 8 เรียกว่า ภพมรณะ   

                       อันเป็นภพที่ 8 จากลัคนา หลายท่านฟังชื่อภพแล้วเกิดความเกรงกลัว

ความจริงแล้วไม่ว่าภพใดก็ตามในดวงชะตา มีบวก มีลบ เป็นคุณ และเป็นโทษ เป็นสิ่งคู่กันเสมอ ภพนี้มีความหมายมากมาย หลายนัย ส่วนใหญ่ๆ จะเป็นความหมาย ที่แสดงในทางลบก่อนเสมอ หมายถึง ภัย อันตราย ความตาย ความป่วยไข้ สุขภาพ การรักษาพยาบาล ความสูญเสีย การจากไกล การพลัดพราก ความเสื่อม ความเปลี่ยนแปลง โยกย้ายไปสู่สิ่งที่ดีก็ได้  จากไปไกลเพื่อการศึกษาก็ได้ ถ้ามีดาวพฤหัส เจ้าเรืนศุภะสัมพันธ์ด้วย  ความตกต่ำ จากไปไกล นาน สิ่งเก่าๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ ภัยอันตรายที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย คือ ความป่วยไข้ และความตาย ซึ่งหมายถึงความชำรุด และสูญเสียทางสุขภาพ ถ้าเหตุแห่งมรณะนี้ไปเกี่ยวกับการเงิน ก็หมายถึงเงินตาย คือ เสียเงิน หมดเปลืองเงิน สุรุ่ยสุร่าย รั่วไหลหมดเปลือง การเดินทางไกล การพรากจากกัน การไกลห่างกัน  มรณะ บวกการงาน หมายถึงออกจากงาน ย้ายงาน เหตุการณ์ ที่ตายไปแล้ว คือ  อดีตหรือ เรื่องที่ผ่านไปนานมาแล้ว ถ้าหมายถึงสิ่งของ  เป็นสิ่งของที่ทำให้เกิดมรณะ ความตาย เช่นอาวุธ และเครื่องประหาร  มรณะบวกอาหาร หมายถึง อาหารมีพิษ กินแล้วตาย มรณะบวกยา หมายถึงยาพิษ แต่คำนี้ถ้าคิดคำศุภะ อันเป็นความหมายของภพที่ 9 จะแปลว่า ยารักษาโรค ถ้าเป็นเครื่องมือก็ คือ เครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นการป้องกันความตาย มรณะบวกสิ่งของ ก็คือ ของที่หายไปแล้ว หรือสิ่งของที่ตายเป็นอดีตไปแล้ว คือ โบราณวัตถุ หรือของที่มิได้ใช่แล้ว ของที่เสียแล้ว มรณะบวกสิ่งของแต่ติดความหมายในทางลาภะ เป็นลาภะจะหมายถึงพินัยกรรม มรดก คือ ทรัพย์ที่ได้จากการตาย ทรัพย์ที่ได้จากการตายหรือสูญเสียนี้ยังมีความหมายถึง เงินค่าประกันชีวิตด้วยเช่นกัน ถ้าเกี่ยวกับบุคคล หมายถึง คนเมืองไกล คนต่างถิ่น คนที่มิได้พบเห็นนานมาแล้ว คนที่ตายไปแล้ว  คนห่างๆ ที่ไม่คุ้นเคยกัน คนป่วย คนที่เกี่ยวกับความตาย เช่นสัปเหร่อ ก็ได้ ถ้าเป็นสถานที่ ย่อมเป็นสถานที่ที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วย ความตาย คือคลีนิคโรงพยาบาล สุสาน สถานที่ไกล เช่น ต่างจังหวัด สถานที่ที่ตายแล้ว คือที่ร้าง ที่ทอดทิ้งไป อาคารสถานที่บวกมรณะ คือ อาคารชำรุด ทรุดโทรม ผุพัง

           การทำนายในภพมรณะนั้นค่อนข้างจะยาก เพราะไม่สามารถทายตรงๆโดดๆได้ มักจะต้องมีความหมายของดาวหรือภพเรือนอื่นๆประกอบด้วยเสมอ จึงสามารถทายออกมาเป็นเรื่องราวได้

               ดังเช่น ในช่วงเวลานี้ พิจารณาจากดวงเมือง ดาวพฤหัส(๕)ที่กำลังโคจรอยู่ในเรือนมรณะของดวงชะตาเมือง คือสาเหตุของความวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะนี้  อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วหลายครั้ง  และเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆจะยังไม่สงบลงง่ายๆ ตามวิถีการโคจรของดวงดาว  ยิ่งดาวพฤหัส(๕) ปีนี้เป็นทำหน้าที่เป็นเจ้าเรือนอริ และศุภะจรประจำปีด้วยแล้ว ยิ่งหนักหนาสาหัสสากรรจ์ไปใหญ่  แถมวันที่ ๒๘ กรกฎาคม เป็นต้นไป  ดาวอังคาร(๓) จะโคจรย้ายเข้าสู่เรือนกดุมพะ เป็นประ เล็งดาวพฤหัสซ้ำเข้าอีก ระวังเหตุการณ์ที่รุนแรงจากการใช้อำนาจกฎหมายและอาวุธ ของตำรวจ-ทหาร จะทำให้เกิดการแตกหักขึ้นอย่างไม่คาดหมาย 

           ผู้ชุมนุม และ ฝ่ายผู้กุมอำนาจบ้านเมือง ต้องถอดคนละก้าว  ร่วมกันประคับประคองสถานการณ์ให้ลดดีกรีความร้อนแรงลง  ขอเตือนว่า คนไทยด้วยกัน การให้อภัย และอะลุ้มอล่วย คือสิ่งที่ควรจะคำนึงถึงให้มากที่สุดในยามนี้   การจับกุมแกนนำและผู้ชุมนุมอย่างเฉียบขาด โดยอาศัยกฎหมาย และอาวุธในมือ  จะสร้างความแตกแยกอย่างไม่มีวันที่จะสานต่อได้อีก. 

ปาฏิหาริย์

Rahoo89@gmail.com

14.ภพในโหราศาสตร์ไทย (3)

14.ภพในโหราศาสตร์ไทย (3)

              ภพที่ 6 เรียกว่า ภพอริ   เป็นภพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการพยากรณ์มาก เป็นภพที่มีความหมายกว้างขวางมาก ชื่อของภพทำให้มีผู้เข้าใจผิดคิดแคบๆว่าเป็นเพียง อริ-ศัตรู เท่านั้น จริงๆแล้วภพนี้มีความหมายทั้งคุณและโทษ ทั้งบวกและลบ ความหมายหลักๆคือ อุปสรรค การขัดแย้ง การต่อต้านขัดขวาง การคัดค้าน ความทุกข์ยาก ความยุ่งยากเดือดร้อน อุบัติเหตุ การข่มเหง ข่มขู่ ทำร้าย วิวาท ความดื้อดึง ความจำเป็น การฝ่าฝืน ในทางบวกความอดทน ความมานะพยายาม การต่อสู้ดิ้นรน ความเพียร ความไม่ถูกต้อง เหตุการณ์ ก็คือ เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความเป็นอริ เป็นสิ่งที่เป็นโทษทุกข์ ตามความหมายของภพนี้ทั้งสิ้น คือการขัดขวาง คัดค้าน โต้แย้ง ข้อพิพาท รวมถึงการระงับ ยับยั้ง รุนแรงบังคับวิวาท ทำร้าย อุบัติเหตุ เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความผิดพลาดให้เดือดร้อน ยุ่งยาก ความเป็นศัตรู ความประสงค์ร้าย เหตุการณ์ที่มาจากศัตรู  การสอบสวน หาความผิดเพื่อลงโทษ การตรวจสอบ การแข่งขัน    คดีความ การประมูล การต่อสู้ สิ่งของ ก็คือ สิ่งของที่เป็นอรินั่นเอง คือ เครื่องกีดขวาง เครื่องใช้ในการต่อสู้ ทรัพย์พิพาท สังเกตได้ว่าความหมายค่อนข้างจะมาก เป็นนามธรรมก็เยอะ
ถ้าเกี่ยวข้องกับบุคคล ก็คือ บุคคลที่เป็นความหมายของอรินั้นเอง คือ ศัตรู คู่ต่อสู้ คู่ความ ทนายความ มวย คู่แข่ง ส่วนสถานที่ ก็เป็นสถานที่มาจาก ความหมายหลัก เช่น สถานที่บวกอุปสรรค-อริ  เช่น เขตหวงห้าม สถานที่บวกลำบาก คือ ทางทุรกันดาร สถานที่บวกขัดขวาง คือ เขื่อน ประตูน้ำ สถานที่บวกต่อสู้ คือ สนามรบ ยุทธภูมิ และสนามมวย

      ข้อสังเกตจากดวงชะตาเมือง  เจ้าเรือนอริจรปีนี้คือ ดาวพฤหัส(๕)แฝงความหมายของเรือนศุภะ กำลังโคจรอยู่ในเรือนมรณะ ต้องระวังผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง หรือ เกจิอาจารย์ระดับสูงจะมีอันเป็นไป  โดยเฉพาะก่อนกลางเดือนพฤศจิกายน และเจ้าเรือนอริเดิมคือ ดาวพุธ(๔)แฝงความหมายเดิมที่มาจากเรือนวินาสน์ โคจรที่เรือนสุหัสชะ โจรก่อการร้าย ๓ จังหวัดชายแดนใต้ กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธในการโจมตี  ระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ๆที่คาดไม่ถึง.

 ภพที่ 7 เรียกว่า ภพปัตนิ  หรือ ราศีที่ตรงกันข้ามกับราศีแห่งลัคนา เป็นภพแห่งความหมายถึง การร่วมรัก ร่วมชีวิต ซึ่งหมายถึง คู่สมรส หรือ การเป็นสามีภรรยา ครอบครัว การร่วมงาน การร่วมทุน (สุดแต่การร่วมจะผนวกเข้ากับเรื่องใด) เมื่อมีการร่วมก็ย่อมเกิด การแบ่งปัน จึงหมายถึง การแบ่งส่วน ผ่อนส่ง จัดสรร คู่สัญญา ส่วนแบ่ง ถ้าเป็นเหตุการณ์  หมายถึง  ความรัก ความเสน่หา การสมรส แต่งงาน การจัดสรร หุ้นส่วน  แบ่งเป็นส่วนๆการร่วมทำ กิจกรรม ผลส่วนแบ่ง การไกล่เกลี่ย ปรองดอง ถ้าเป็น สิ่งของ  คือ  ส่วนที่แบ่ง ชิ้นส่วนอันเป็นส่วนประกอบ ส่วนแบ่งบวกเงิน หมายถึง ค่าจ้าง เงินเดือน เงินค่าแรง เงินผ่อนชำระ ความรัก ความเสน่หาบวกยา หมายถึงยาที่บำรุงเซ็ก ถ้าเป็นบุคคล ก็คือ  สามี ภรรยา บุคคลในครอบครัว คู่รัก หุ้นส่วน คู่สัญญา เพศตรงข้าม ฝ่ายตรงกันข้าม (ซึ่งมาจากความหมายของภพที่ตรงกันข้ามกับลัคนา) คู่แข่งก็ใช่ ถ้าเป็นสถานที่  คือ  สถานที่ตรงกันข้าม คนละฟาก ทางที่สวนมา ถ้าหมายถึงห้อง จะเป็นห้องนอน ส่วนแบ่งบวกที่ดิน หมายถึง ดินจัดสรร ส่วนแบ่งบวกอสังหาริมทรัพย์ หมายถึงตึกแถว คือ ตึกแบ่งเป็นห้องๆ บริษัทหุ้นส่วน สถานที่แห่งกามวิสัย ซ่องโสเภณี หรือ สถานที่มีบรรยากาศแห่งกิเลส และความรื่นรมย์ในกิเลส

        ในดวงชะตาเมือง ดาวเสาร์(๗) เป็นเจ้าเรือนปัตนิจรที่กำลังโคจรอยู่ที่เรือนพันธุมาเป็นเวลานานนั้น  กำลังจะเคลื่อนเขาสู่เรือนปุตตะ ในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ที่จะถึงนี้  จะมีการจับขั้วของนักการเมืองเก่า กับกลุ่มอำนาจทหารที่เริ่มจะเข้ามาสู่วังวนของการเมือง เพื่อเริ่มต้นภารกิจใหม่ๆ(เรือนปุตตะ)ในการสืบทอดอำนาจและแบ่งสรรผลประโยชน์.

             เกมชิงอำนาจก็จะเกิดขึ้นอีก  จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่รู้จักจบสิ้นในประเทศเราอีกต่อไป.. และต่อไป.. จนล้าหลัง พม่า และเขมร  เฮ้อ..วังเวงครับ.

ปาฏิหริย์

 

13.ภพในโหราศาสตร์ไทย(2)

              13.ภพในโหราศาสตร์ไทย  (๒)                

                           ขออนุญาตต่อเรื่องภพ จากสัปดาห์ที่แล้วครับ  สำหรับท่านที่สนใจเรื่องดวงชะตา เผื่อจะได้หัดวิเคราะห์ดวงชะตาตนเองเป็นบ้าง  ผู้เขียนเชื่อว่าหลายๆท่านคงมีดวงชะตาที่ผูกแล้วไว้พกติดตัวอยู่  ถ้าใครยังไม่มีระวังจะตกเทรนด์นะครับ   ผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ล้วนผูกดวงชะตาเอาไว้ทุกท่าน เพื่อรู้จังหวะของชีวิต  ก็ทำง่ายๆดังนี้ครับ  แวะไปสำนักโหราศาสตร์ที่ไหนก็ได้ ให้หมอดูผูกดวงชะตา เพียงแต่ต้องบอก วัน  เดือน  ปีเกิด   เวลาเกิด(ตกฟาก)   จังหวัดที่เกิด  หมอดูก็จะผูกดวงชะตาให้ท่านได้แล้วครับ.

             ภพที่ ๔  เรียกว่า ภพพันธุ  ความหมายค่อนข้างตรงตัวครับ หมายถึงเผ่าพันธุ์

วงศ์วานว่านเครือ ญาติพี่น้อง วงศ์ตระกูล ประชาชนของประเทศนั้นๆ  หรือสิ่งที่เป็นอสังหาริมทรัพย์  หลักทรัพย์  และ ยวดยานพาหนะต่างๆ   ถ้าเกี่ยวพันกับเหตุการณ์  ก็มีความหมาย ถึงความผูกพัน มีพันธะต่อกัน  การรับรองค้ำประกัน  ความมั่นคงถาวร ความเป็นปึกแผ่น ความเห็นอกเห็นใจ   ถ้าเป็นสิ่งของก็จะหมายถึง บ้าน ที่อยู่อาศัย ที่ดิน บ้านเกิด รถยนต์  เรือ แพ ยวดยานต่างๆ 

              ข้อสังเกต สำหรับดวงชะตาเมือง  ขณะนี้ดาวเสาร์(๗) กำลังกดนิ่งอยู่ ในภพพันธุของดวงเมือง คงจำกันได้ว่า ดาวเสาร์(๗) หมายถึง โทษ ทุกข์ ที่กัดกร่อน ทำลายแบบช้าๆ ทำนองเดียวกับไฟสุ่มขอน คือ ไม่แสดง โทษ ทุกข์ แบบฉับพลัน แต่จะให้โทษแบบค่อยเป็นค่อยไป  ถ้าสังเกตกันดีๆ ดาวเสาร์(๗)สถิต ณ ภพใด ก็จะสถิตอยู่เป็นเวลาประมาณ ๒ ปีครึ่ง 

                       ครับ..สองปีที่ผ่านมา ประเทศของเราโดนทำลายไปหลายๆด้านด้วยกัน  ตั้งแต่ ผู้ก่อการร้ายสามจังหวัดชายแดนใต้  เกิดเหตุประท้วงรายวัน แม้นกระทั่งการยึดอำนาจก่อการรัฐประหาร  ประเทศเราตกต่ำไปเยอะครับ  ความมั่นคงด้านต่างๆ ถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น ด้าน สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ทุกอย่างถอยหลังไปหมด จนมีการพูดกันว่า เราจะตามประเทศเพื่อนบ้านไม่ทันเสียแล้ว  ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เราเคยคิดว่าเราคือ เสือตัวที่ ๕ ของเอเชีย  มาบัดนี้ ความฝันนั้นคงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว

                 แต่ที่ยังหวังกันว่า เมื่อดาวเสาร์(๗) ย้ายเรือนไปภพปุตะ ทุกอย่างจะดีขึ้น.

         ภพที่ ๕  เรียกว่า ภพปุตตะ    ดวามหมายหลัก คือ ..เด็กๆ  บุตร  ผู้อ่อนวัย  สิ่งที่มาใหม่  การเกิดใหม่ ความสนุกสนาน ความยินดี ความบันเทิง  ถ้าเกี่ยวกับเหตุการณ์   อาศัยความหมายหลัก ของคำว่าเด็กๆ คือ การเล่นสนุก  การเล่นกีฬา การพักผ่อน  กิจกรรมระยะเวลาสั้นๆ  การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ  การศึกษาในวัยเด็ก ระดับ อนุบาลจนถึง มัธยมปลาย  บางตำราบอกว่า เกี่ยวกับการเสี่ยงโชค และการพนันขันต่อต่างๆ   

    ดาวศุกร์(๖) หมายถึงการเงิน หุ้น โคจรมาสถิตที่ภพ ปุตตะ เกิดอะไรขึ้น..

         ตั้งแต่วันที่ ๓๐  มิ.ย. ปีนี้  ในดวงชะตาเมือง ดาวศุกร์(๖) ซึ่งเป็นเจ้าเรือน กดุมพะ(การเงิน)และปัตนิเดิม และมาจากเรือนวินาสน์(คาดไม่ถึง,ลึกลับ,ไม่มีเหตุผล))ในดวงเมืองเดิม  และลัคนจรนั้นดาวศุกร์(๖)ทำหน้าเป็นเจ้าเรือน ลาภะ และเจ้าเรือนพันธุ กำลังจรมาสถิตอยู่ที่ภพปุตตะ ส่งผลให้เกิด ภาวะค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นโดยไม่มีเหตุผล และการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อันเป็นตลาดการเงิน(กดุมพะ)ของไทยโดยกองทุนที่ไม่ปรากฏสัญชาติ ทำให้เกิดภาพที่บิดเบี้ยว ไม่ตรงกับความเป็นจริงของภาวะเศรษฐกิจไทย ซึ่งเชื่อว่า ปรากฎการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่นานนัก  ดังนั้นผู้ที่กำลังหลงระเริงกับตลาดหุ้นควรระวังตัวเอาไว้  อย่าได้ชะล่าใจเป็นอันขาด  เพราะดาวศุกร์(๖)ที่สถิตภพปุตตะนั้น  จะเริ่มย้ายออกไปตกเรือนอริ(อุปสรรค,ความขัดข้อง)ในช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน หุ้นจะร่วง ระวังฟองสบู่จะแตกอีกครั้ง    

                 สิ่งที่สำคัญ  รัฐบาลควรมีมาตรการต่างๆมาดูแลค่าเงินบาทให้มีสภาพตามความเป็นจริง  และปกป้องประชาชนชาวแมลงเม่าในตลาดหุ้นให้เป็นรูปธรรมดีกว่า   เพราะเมื่อดาวศุกร์(๖) เดินเข้าภพอริในช่วงต้นเดือน พฤศจิกายนแล้ว  ระวังทุกสิ่งทุกอย่าง..จะสายเกินไป..!

ปาฏิหาริย์

12.ภพในโหราศาสตร์ไทย

                     12.ภพในโหราศาสตร์ไทย

                เขียนบทความวิเคราะห์เรื่องดวงเมืองมาก็หลายฉบับแล้ว  มีเสียงทักท้วงมาว่า บทความที่เขียนมามีการใช้ศัพท์แสงทางโหราศาสตร์มาก อ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง บางครั้งอ่านแล้ว ก็งง จับต้นชนปลายไม่ถูก  ทำไงดี

                   ครับ..ถ้าได้เรียนรู้พื้นฐานแบบง่ายๆบ้าง  คงจะดีไม่น้อย  จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของนักโหราศาสตร์ ที่ทำนายดวงชะตาเมืองแล้ว  ทำให้เกิดอาการตกอกตกใจ ว่า  เอ..บ้านเมืองมันจะไปไม่รอดแล้วมั้ง. 

                  ว่าตามจริงแล้ว  คนไทยเรามีความผูกพันกับเรื่องโหราศาสตร์ มาเนิ่นนานตั้งแต่โบราณ  มีการก่อตั้งกรมโหร   มีข้าราชการเป็นโหรหลวง  ตำแหน่งถึงระดับพระยาโหราธิปดีเชียวครับ   ถ้าเป็นสมัยนี้ น่าจะเป็นระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง   สำหรับกรมโหร ก็น่าจะตั้งชื่อเป็น  กระทรวงโหราพยากรณ์และการวางฤกษ์ ( คล้องจองกับ กระทรวงเทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสาร  พอดี )

                 ถ้าสังเกตดีๆ  ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว  จนถึงรัฐบาลและผู้มีอำนาจสมัยนี้  เรามักจะได้ยินข่าวเสมอๆว่า มีการผูกดวงชะตา  วางฤกษ์ แก้เคล็ด เพื่อทำการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศให้รับผลสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ  ผู้นำหลายๆท่าน มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์  ฮวงจุ้ย  ติดตามอยู่ข้างกายเสมอ เพื่อแก้เคล็ด และสะเดาะเคราะห์เป็นรายวัน บางครั้งถึงกับบินไปประเทศเพื่อนบ้าน หาหมอดูกันเลยทีเดียว

                  ฉบับนี้ผู้เขียนอยากจะอธิบายถึง  ภพ หรือนักโหราศาสตร์บางท่านเรียกว่า เรือน ก็ความหมายเดียวกันครับ   ภพต่างๆ ที่ทางนักโหราศาสตร์ได้นำมาทำนายกันแบ่งออกเป็น ๑๒ ภพ (สำหรับเรื่องดวงดาวและความหมายของดาวนั้น  ได้เคยเขียนไปเมื่อ ๒ ฉบับก่อนหน้านี้)  จะอธิบายแบบง่ายๆ เพื่อความรู้ และความสนุกสนานในการอ่านต่อไป .

           ภพที่ ๑ เขาเรียกว่า ภพตนุ  ภพที่เริ่มต้น เป็นที่สถิตของลัคนา ในดวงชะตา  ความหมายหลักก็คือ ตัวตนของเราเอง ชีวิตของเจ้าชะตา  วาสนา และพฤติกรรม  ถ้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ ก็จะหมายถึง พื้นฐานของชีวิตเมื่อเกิด  ว่าจะมีภาวะอย่างไร และจะแสดงเหตุการณ์ที่ดำเนินไปในอนาคต  โบราณบอกว่า ดูวาสนาให้ดูที่ภพนี้เป็นหลัก

ในดวงชะตาเมืองก็ให้ถือว่า ภพนี้เป็น รัฐบาล หรือผู้กุมอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ  

         ภพที่ ๒  เรียกว่า ภพกดุมพะ  ภพที่ ๒ นับจากลัคนา นับทวนเข็มนาฬิกา  ความหมายหลักก็คือ  เรื่องการเงิน ทรัพย์สิน สมบัติ ฐานะ รายได้ หรือรายจ่าย

ถ้าเกี่ยวกับเหตุการณ์  จะหมายถึง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การลงทุน การได้มาของทรัพย์สิน สมบัติ  หรือ เหตุการณ์ที่ได้มา หรือเสียไปของทรัพย์สิน สมบัติ ส่วนในดวงชะตาเมืองก็จะหมายถึงกระทรวงการคลัง  ธนาคารชาติ  ตลาดหุ้น  ตลาดเงินตรา ต่างๆ

นักเล่นหุ้นต้องสังเกตและจดจำภพนี้ให้ดี ภาวะการณ์ขึ้นลงของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จะร่วงดิ่งลงเหว  หรือพุ่งขึ้น  ก็ดูภพนี้เป็นหลักครับ     

       ภพที่ ๓  เรียกว่า ภพสหัสชะ  ภพที่ ๓ จากลัคนา  ความหมายหลักๆ ก็คือ  เพื่อน สังคม การตกลง การติดต่อ นัดหมาย  ข่าวคราว การเดินทางระยะใกล้  การปรับปรุง แก้ไข  การเจรจา  ถ้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ ก็จะหมายถึง ความเป็นมิตร ความร่วมมือ สมานฉันท์  ความเห็นอกเห็นใจ การแลกเปลี่ยน ประสานผลประโยชน์ ในดวงชะตาเมืองก็จะหมายถึง  ความสมานฉันท์  เอื้ออาทร  การจับกลุ่มของพรรคการเมือง ยังหมายถึงหนังสือพิมพ์ นักหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์โฆษณา เช่น การโฆษณาเชิญชวนให้ลงประชามติ รับร่างรัฐธรรมนูญ 

           ต้องชมครับ  ฝ่ายโหราศาสตร์ของรัฐบาล พยายามออกมาปูทางโฆษณาให้ชาวบ้านไปลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๕๐ ในช่วงนี้พอดี   ซึ่งวันที่  ๖ กรกฏาคมนี้ ดาวพุธ(๔) เดินเข้าภพ สหัสชะ เป็นเกษตร(หมายถึงมั่นคง แน่นอน)

คงคาดหวังว่า ประชาชนจะเกิดความเห็นอกเห็นใจรัฐบาล  และลงประชามติให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องผ่านอย่างแน่นอน.

           เนื้อที่หมดพอดี  ฉบับหน้า มาต่อกันใหม่ครับ.

ปาฏิหาริย์

rahoo89@gmail.com