08 กรกฎาคม 2552

ทำไง..ที่ทำบุญแล้วได้บุญ



การให้บุญสร้างความสำเร็จในปัจจุบัน
พวกเราชาวพุทธทุกคนล้วนเคยทำบุญให้ทานมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งใน ชาตินี้และในชาติก่อนถ้าจะนับบุญก็คงจะใหญ่เท่าภูเขาเลากา หรือเท่าก้อนโลก แต่ไม่รู้จักใช้บุญของตัวเองให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันชาติ จึงต้องรอตายแล้วจึงไปรับบุญที่สวรรค์ คนทำบุญจึงชอบบ่นว่าทำบุญไม่เห็นได้ดีสักที ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่เคยให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เทวดา และญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษานายของตัว เทวดาเหล่านั้น บางองค์อาจจะมีฤทธิ์น้อย บุญน้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย บางคนอ้างว่าทำบุญทุกครั้งก็กรวดน้ำให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวรทุกครั้งก็ไม่เห็นมีไรเปลี่ยนแปลง โปรดเข้าใจว่า ท่านให้ไม่เป็นเขาจึงไม่ได้รับ เช่นให้ไม่เจาะจง หรือ แสงบุญหมดแล้วจึงมากรวดน้ำให้ เขาก็ไม่ได้รับ
เมื่อกำลังจะให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะถวายของแก่พระสงฆ์ ให้ของแก่พระสงฆ์ ให้ของแก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้หมากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ย่อมเกิดกระแสบุญขึ้นเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้กำลังให้ เพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้ก็จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บน เทวะโลก ดังนั้นขณะให้ของแก่ใคร …
จึงควรอธิษฐานจิต คิดทันทีว่า “บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเทวดา –ภูต-ผี-ปิศาจ-ครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เรือกสวน ไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า” หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบุตรของข้า จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดามารดาของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่ว่าเราต้องการแก้ไขในจุดไหน เช่น
บุตรของเราเกเรเหลือเกิน ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่ฟัง แบบนี้ต้องเทวดาผู้รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้น ท่านจะสั่งการไปที่ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเขา ถ้าเทวดาประจำตัวเป็นมิจฉาทิฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆ เทวดารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจขึ้น เขาจะทราบเองว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้น มาจากไหน เมื่อเราอุทิศบุญให้ท่านก็อธิฐานว่า “เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้ว ขอให้มีความสุข มีกินมีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้อบรมลูกข้าให้เป็นคนดีด้วย” ดังนี้ไม่นานหรอก จะเกิดกรณีพิสดารขึ้นกับบุตรเกเรคนนั้นจนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีอย่างแน่นอน
สามีหรือภรรยา คู่ครองของตนจะเป็นที่น่าเอือมระอาเหลือเกิน อยากให้คู่ครองดี รักเราละเลิกความประพฤติชั่วเหลวไหล ก็ให้ทำแบบเดียวกับที่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวบุตร
กิจการค้าของท่านล้มเหลวหรือซบเซา หรืออยากให้ดียิ่งๆขึ้นไป เมื่อท่านทำบุญทุกครั้งควร อุทิศให้เทวดาประจำตัวของท่านและเทวดาที่ดูแลกิจการการค้าด้วยพร้อมกันไป แล้วอธิฐานว่า “เทวดารับบุญของข้าแล้วโปรดช่วยเหลือกิจการค้าธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จด้วยเถิด ขอให้มีเงินทอง เหลือกินเหลือเก็บ เหลือใช้ในชาตินี้ ภพนี้ ด้วยเถิด ถ้าร่ำรวยขึ้นจะทำบุญให้ท่านยิ่งๆขึ้นไปอีก” จะใช้คำเรียกตนว่าข้าหรือ ว่าเราก็ได้ทั้งนั้น
ร้านค้าขาย จะเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำบุญก็ให้อุทิศบุญแก่เทวดาที่รักษาร้านค้านั้นด้วย แล้วบอกว่า “เทวดาเมื่อได้รับแล้วโปรดเรียกลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆด้วย”
การอุทิศบุญ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องกรวดน้ำ ให้ใช้การคิด ต้องรีบคิดทันที อย่าช้าเพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายไปอยู่สวรรค์ ถ้าฝึกบ่อยๆ เราจะชำนาญในการคิดเพรามีกระแสแรงกว่าพูดออกจากปาก เวลาหย่อนก้อนข้าวลงในบาตรให้คิดส่งบุญทันทีและคิดส่งบุญทันทีและคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของหลุดจากมือเราก็ให้คิดทันที อย่าช้า
การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ที่เกิดกับตัวเราสืบเนื่องมาจากนายเวรผู้เคียดแค้นชิงชังกระทำทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ ย่อมสุขภาพไม่ดี ดังนั้นการรักษาต้องส่งบุญไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเหล่านั้น และให้เทวดาผู้รักษาตัวเราในขณะเดียวกันโปรดอธิฐานว่า “หมอยาใดที่สามารถรักษาอาการนี้ให้หายขาดได้ ขอให้เทวดาจงนำหมอนั้นมารักษาตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรได้รับบุญของเราแล้ว จงอโหสิกรรมให้เราด้วย ถ้าเราหายเราจะทำบุญให้แก่ท่านยิ่งๆขึ้นไป” การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่รบกวนควรทำวันละหลายๆ ครั้ง จนเขาพอใจ อาการป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น
วิธีการให้บุญแก่เจ้ากรรมนายเวรควรทำดังนี้เป็นตัวอย่าง เช่น คนป่วยเป็น โรคมะเร็งจุดไหนเมื่อส่งบุญให้คิดว่า “บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยตรง... พวกเชื้อโรคมะเร็งเมื่อได้รับบุญแล้วขอให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น จงหลุดจากภาวะชีวิตชั้นต่ำเสียที เมื่อเราหายแล้วเราจะทำบุญแก่เจ้า ส่งชีวิตพวกเจ้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิก จองเวร จองกรรม ในเราเสียที ตั้งแต่นี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลธรรม เลิกการเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่น ขอส่งบุญที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้า”
ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับการฆ่าหรือเบียดเบียนสัตว์อื่น คนเหล่านี้ต้องสร้างบาปกรรมทุกวันๆ จึงก่อความเคียดแค้นชิงชังให้แก่สัตว์ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวัน เขาก็พยายามจองล้างจองผลาญ แต่ในขณะที่บุญเก่าจองผู้นั้นยังมีอยู่เจ้ากรรมนายเวรก็ทำอะไรไม่ได้ แต่หากว่านายเวรมีช่องทางเมื่อไหร่ วิญญาณของสัตว์ที่เคียดแค้นเหล่านั้นจะตามมาทวงและให้ร้ายทันที ดังนั้นต้องพยายามไถ่ถอนกรรมของตัวด้วยการทำบุญ แล้วอุทิศให้วิญญาณสัตว์ที่ตัวเองฆ่าบ่อยๆส่งบ่อยๆ เอาเนื้อสัตว์ที่เราขายนั้น ทำอาหารถวายพระหรือเลี้ยงผู้อื่น อธิฐานว่า “บุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือผู้อื่นฆ่าเพราะคำสั่งเรา เหล่าสัตว์เหล่าใดได้รับบุญแล้ว ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญ มีชีวิตวิญญาณที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมเวรที่ตนสร้างไว้จงมีภพภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆไป จนกระทั้งเป็นเทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อได้รับบุญแล้วจงอโหสิกรรมให้เราด้วยเถิด”